นางฟ้าของเด็กๆมาปรากฏกายทุกๆวันให้เห็นไม่ใช่ฝัน


ท่านใดผ่านไปพัทยา แวะเยี่ยมให้กำลังใจหนูนาได้นะครับ
"หนูนา" ลูกสาวคนใหม่ของพวกเรา รักษาตัวอยู่ที่พัทยา
รพส.บ้านหมอรักษ์สัตว์ ตรงข้ามบุญถาวร(คณะพระมหาไถ่)
ริมถนนสุขุมวิท ก่อนถึงแยกไฟแดงพัทยากลาง
(ไม่รับเงินบริจาคนะครับ แต่ใครจะฝากเป็นอาหารกับขนมจะขอบคุณมาก)
สอบถามเส้นทาง รายละเอียด อ.ต่อ 089-0414142
ถูกโพสครั้งแรกบนกระดานข้อความของ เพื่อนกัน_ไม่ทิ้ง(น้องหมา)กัน
โดย: Vivis Trd

                                      +++++++++++++++++++++++++++++++
นางฟ้าของเด็กๆ มาปรากฏกายทุก ๆ วันให้เห็นไม่ใช่ฝัน
นางฟ้า...ของน้องหมาจรจัด ๆ มาปรากฏกายทุก ๆ วันให้เห็นไม่ใช่ฝัน น้ำใจหยดเล็กๆ ที่บันดาลความหิวโหยให้หมดไป ..ท่ามกลางความวุ่นวายของยวดยาน ที่โลดแล่นขวักไขว่ไปมาบนท้องถนน ' ชีวิตเล็กๆ ' ชีวิตหนึ่งสอดแทรกลงในช่องว่างของความสับสนนั้นอย่างกลมกลืน แหวกว่ายอยู่ในม่านฝุ่นควัน และไอเสีย ไม่มีอะไรโดดเด่น สะดุดตา คล้อยบ่ายของทุกวันริมถนนวงศ์สว่าง ภาพของหญิงวัยกลางคนรูปร่างท้วมกับรถเข็นคันเล็กๆ ซึ่งบรรทุกข้าวของพะรุงพะรัง ค่อยๆ คืบคลานไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ด้วยเรี่ยวแรงของ 2 ขา ที่โรคภัยเริ่มรุมเร้าเข้ามาบั่นทอนกำลัง เพื่อจัดการกับภาระหน้าที่ที่ไม่มีใครมอบหมายหรือสั่งให้เธอต้องทำ แต่เธอก็ทำของเธอเองมาแล้วเป็นเวลากว่า 10 ปี เป็นสิ่งที่คนในละแวกนี้เห็นกันจนชินตา หรือหากใครที่ผ่านไปมาแถวนี้เป็นประจำจะลองเหลียวมาดู ภาพชีวิตเล็กๆ ของเธอคนนี้ก็คงจะผ่านมาในสายตาเข้าสักวัน อย่าง ‘พี่แอน’ หญิงวัย 49 ปี ที่ผมมีโอกาสพบกับเธอเป็นครั้งแรกเมื่อซัก 1 ปี ก่อนหน้านี้ จากเสียงร้องขออย่างสุภาพของเธอ ….. “พี่ช่วยบริจาคเงินเป็นค่าอาหารหมาจรจัดหน่อยมั้ยคะ” เงิน 20 บาท กับคำขอบคุณในวันนั้น คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้รับรู้ถึงการมีตัวตนของเธอในละแวกที่พักอาศัย ก่อนที่หลังจากนั้นจะมีโอกาสได้พบกับเธอบ่อยขึ้นจากการยืนขอรับบริจาคเงินบริเวณปากซอยทางเข้าบ้านของผม อาทิตย์ละครั้งบ้าง 2 ครั้งบ้าง ตอนนั้นผมเองก็ไม่ได้อยากเจอกับเธอซักเท่าไหร่หรอกครับ เพราะการเจอกันแต่ละครั้งมันหมายถึง เงิน 20 บาทในกระเป๋าของผม จะต้องถูกถ่ายโอนไปอยู่ในมือของเธออย่างไม่รู้จะปฏิเสธยังงัย ‘ แกเอาเงินไปเลี้ยงหมาจรจัดจริงหรือเปล่าวะเนี่ย .. ??? ’ ผมมีสิทธิที่จะสงสัยอย่างนั้นไม่ใช่หรือ กับสังคมทุกวันนี้ที่ลักษณะการหากินแปลกๆ ของคนบางจำพวกเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ง่ายจะตายไป แต่ข้อสงสัยนั้นของผมก็ได้รับคำตอบในเวลาต่อมาไม่นานนัก เมื่อสายตาบังเอิญเหลือบไปเห็นภาพของเธอกำลังให้อาหารสุนัขจรจัดอยู่ริมถนน ขณะที่ผมกำลังนั่งรถกลับบ้านในบ่ายวันหนึ่ง และค่อยๆ บ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ 

จากการมองอย่างสังเกตเพื่อค้นหาเธอในวันต่อๆ มา ‘ คนใจบุญคนหนึ่งในสังคมเฮงซวย ’ ความรู้สึกที่ผมคิดว่าเธอเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นทำให้เงิน 20 บาทต่อๆ มาของผมที่หยิบยื่นไปให้ ดูมีคุณค่าเพิ่มขึ้นมากว่าแต่ก่อนอย่างมากมาย จนกระทั่งในการพบกันครั้งหนึ่ง ..... ขอบคุณค่ะพี่ แต่พี่ไม่ต้องให้หนูแล้วเมื่อกี้แฟนพี่ให้หนูมาแล้วคะ” “ ..................... ” คำปฏิเสธที่ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงตัวตนอีกด้านหนึ่งในตัวพี่แอน ที่ผมไม่เคยรับรู้มาก่อน ซึ่งเป็นอะไรที่มากกว่า ‘คนใจบุญ’ อย่างที่เคยคิดไว้ตอนแรก ‘ผู้รับ’ ที่รู้จักคำว่า ‘พอ’ โดยไม่ปรารถนาที่จะเบียดเบียนผู้อื่นมากไปกว่าที่เคยได้รับมา ในชีวิตหนึ่งจะมีซักกี่ครั้ง ที่จะมีโอกาสได้พบกับ ‘น้ำใจของผู้รับ’ เช่นนี้ตกหล่นข้างทางกลางเมืองหลวง เมืองแห่งการแก่งแย่งดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด เมืองที่คำว่า ‘พอ’ ดูจะหายไปจากใจผู้คนมานานแสนนาน ..... ได้แค่ 25 ตัว ที่เหลือหนูก็ก็ได้แต่คอยหาข้าวให้มันกิน ก็ทำได้แค่ที่ตัวเองมีแรงทำแหล่ะคะพี่” “หนูสงสารพวกมันเลยเริ่มเก็บเอามาเลี้ยง แต่ที่บ้านพื้นที่น้อยเลยเลี้ยง เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต ‘นางฟ้าจรจัด’ ของพี่แอน อดีตแม่ค้าขายขนมหวานที่ตัดสินใจยุติอาชีพของตนเพราะความสงสารและรักสุนัข แล้วหันมาคอยช่วยเหลือจุนเจือชีวิตจรจัดแถวถนนวงศ์สว่างทั้งเส้น โดยได้รับความเห็นชอบจากทางบ้าน ซึ่งยังมีพี่น้องอีกหลายคนที่สามารถทำงานจุนเจือครอบครัวได้ ถึงพี่แอนจะโชคดีที่คนในครอบครัวเข้าใจในสิ่งที่ทำ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเข้าใจอย่างนั้นด้วยทุกคน เพราะด้วยความที่สุนัขจรจัดมีมากกว่าที่คิดเอาไว้ จนเกินกำลังที่พี่แอนจะช่วยเหลือพวกมันได้โดยลำพังอีกต่อไปการขอรับบริจาคจึงเป็นหนทางในการแก้ปัญหาของพี่แอน เพื่อให้ทุกชีวิตที่เธอไปพบเห็นพวกมันถูกทิ้งขว้างอยู่ข้างทางได้อิ่มท้อง แม้ว่านั่นมันจะทำให้เธอถูกมองว่าทำตัวไม่ต่างไปจาก ‘ขอทาน’ เลยก็ตาม “ก็มีบ้างที่โดนว่านะพี่ แขนขาก็ยังดีมาเที่ยวขอทานคนอื่นไม่อายบ้างหรืองัย 

บางคนก็หาว่าหนูเอาหมามาหากิน แต่หนูก็ไม่ได้โกรธพวกเค้านะพี่ หนูเข้าใจพวกเค้า ใครจะคิดยังงัยก็ปล่อยเค้าคิดไป แต่บางครั้งมันก็น้อยใจนะพี่ แต่ก็ต้องทนเพราะหนูทำเองคนเดียวไม่ไหว” การถูกเข้าใจผิด หรือโดนดูถูก อาจจะทำให้พี่แอนรู้สึกน้อยใจบ้างในบางครั้ง แต่มันก็ไม่ได้ทำร้ายจิตใจของเธอมากไปกว่าความช่วยเหลือที่เธอคาดว่าจะได้รับ แต่สุดท้ายกลับถูกปฏิเสธออกมาอย่างไม่ใยดี ‘วัด’ (บางแห่ง) ที่ซึ่งพี่แอนคิดว่าน่าจะมีข้าวเหลือพอสำหรับสัตว์ยากไร้แต่ความจริงที่ต้องรับรู้ก็คือ นั่นเป็นอาหารสำหรับญาติโยมที่จะมารับเอากลับไปกินกันตอนเย็น (หมาในวัดนั้นพี่แอนต้องเอาข้าวไปให้ด้วย) ‘มูลนิธิสงเคราะห์สัตว์’ (บางแห่ง) ที่ซึ่งพี่แอนคิดว่าน่าจะได้รับความช่วยเหลืออะไรบ้างแต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปดังหวัง แม้แต่ใบอนุญาติการขอเรี่ยรายเงินบริจาค (ผมเองก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมันเรียกว่าใบอนุญาติอะไรกันแน่) ที่สามารถช่วยเหลือเธอให้หมดปัญหากับตำรวจและเทศกิจ ก็เป็นความช่วยเหลือที่พ่วงมาด้วยข้อแม้ .. ‘ ทุกอย่างต้อง 50-50 ’ “ถ้าหนูต้องเอาเงินไปแบ่งให้เค้าครึ่งนึง แล้วมันจะเหลือพอให้หนูไปเลี้ยงหมาที่ไหนละพี่ หนูต้องซื้อข้าวกระสอบละ 1,250 บาท กระสอบนึงก็อยู่ได้ 3-4วันเอง ไหนจะตับที่ต้องเอามาบดคลุกให้พวกมันอีกล่ะ ไหนยังจะต้องซื้อนมให้ไอ้ตัวที่ป่วยอีก นี่ยังดีนะพี่ที่มีคนใจดีคอยซื้ออาหารเม็ดมาให้หนู (เธอเข้าใจว่าหมาป่วยถ้าได้กินอาหารเม็ดจะหายเร็วขึ้น) ไม่งั้นหนูก็ไม่มีปัญญาหาให้มันกินหรอก” 

ทุกวันนี้พี่แอนจึงทำได้แค่เพียงนั่งขอรับบริจาคอยู่ตามป้ายรถเมล์บ้าง หรือจากผู้คนที่เข็นรถผ่านไปบ้าง และในบางครั้งถ้าอาหารที่มีอยู่ใกล้จะหมดแต่เงินยังไม่พอที่จะไปซื้อ พี่แอนก็ต้องยอมเสี่ยงกับการถูกตำรวจหรือเทศกิจเรียกตรวจใบอนุญาติขอเรี่ยรายเงินบริจาค ซึ่งเธอไม่เคยมี ยอมเสี่ยงกับการถูกจับ หรือขับไล่ว่าเป็น ‘คนเรี่ยรายเงินเถื่อน’ ถือกล่องรับบริจาคไปยืนตามแหล่งที่ผู้คนพลุกพล่านอย่างแถวท่าน้ำศิริราช และที่อื่นๆ เพื่อให้วันต่อไป ‘ชีวิตเถื่อน’ ที่ไม่มีใครต้องการอีกหลายชีวิตจะได้มีข้าวกินอิ่มท้อง ที่เล่ามาคงเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของชีวิตเล็กๆ ในสังคม ‘ผู้รับ’ ในสายตาคนทั่วไป แต่เป็น ‘ผู้ให้’ สำหรับเหล่าสุนัขจรจัดแถววงศ์สว่าง ซึ่งในสายตาของพวกมัน พี่แอนคงไม่ต่างจาก ‘นางฟ้า’ ที่สวรรค์ส่งลงมาเพื่อดลบันดาลความหิวโหยในแต่ละวันของพวกให้มันหมดไป ผมลองถามคนคนในละแวกในละแวกใกล้เคียงถึงเรื่องของพี่แอน ทุกคนพูดตรงกันว่าเธอนำอาหารมาให้สุนัขแถวนั้นทุกวัน แต่ก็มีบ้างกับบางอคติที่เกิดขึ้นในใจใครบางคน ‘คนเลี้ยงหมา หมาก็เลี้ยงคนเหมือนกันแหล่ะ’ ผมคงไม่อาจปฏิเสธว่ามันอาจเป็นอย่างคำพูดนั้นจริงๆ ก็ได้ 

ซึ่งถ้าเป็นเช่น นั้นจริง .. ก็แล้วจะเป็นอะไรไปล่ะ มูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ต่างๆ ไม่ได้นำเงินบริจาคมาใช้จ่ายเป็นค่าบุคลากร รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เลยหรือ ??? ‘การให้’ ต้องหมายถึง การห้ามรับสิ่งใดๆ ตอบแทนกลับมาเลยหรือ ??? หรือเพราะใครหลายคนไม่คุ้นเคยกับการเป็น ‘ผู้ให้’ จึงทำให้นิยามของมันถึงคับแคบได้มากขนาดนั้น ..... โดยส่วนตัวผมเอง มอง ‘การให้’ กับ ‘การรับ’ ว่าเป็นของคู่กันเสมอ จะมีที่แตกต่างกันก็แต่เพียง สิ่งที่จะได้รับกลับมานั้นคืออะไรก็เท่านั้นเอง แต่นั่นก็คงไม่ได้สำคัญมากไปกว่า ‘ความปรารถนาดี’ ที่ใครคนหนึ่งตั้งใจมอบมันออกไปซึ่งในบางครั้งหรือบางอย่าง อาจจะมีแต่เพียงผู้รับเท่านั้นที่รู้ซึ้งถึง ‘คุณค่า’ ของความปรารถนาดีที่ได้รับมา “ชีวิตหนูไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจเลย” คือคำพูดหนึ่งที่พี่แอนบอกกับผม ในวันที่ไปขออนุญาตินำเรื่องราวของเธอมาบอกกล่าวในที่นี้ “ไม่จริงหรอกพี่ !! น้ำใจของพี่งัย มันอาจไม่มีค่ากับคน แต่กับหมาพวกนั้นน่ะ สิ่งที่พี่ทำมันมีค่ามากเลยนะพี่” เป็นเพียงกำลังใจเล็กๆ จากผม ที่อยากให้พี่แอนได้รู้ไว้ว่ายังมีคนเห็นคุณค่าในสิ่งที่พี่แอนทำ 

แม้สิ่งนั้นจะไม่ใช่เรื่องที่ยิ่งใหญ่อะไรเลยก็ตาม หมายเหตุผู้เขียน : เนื่องจากมีหลายท่านได้แสดงความประสงค์ที่จะให้ความช่วยเหลือกับพี่แอนในกล่องแสดงความคิดเห็นไว้มากพอสมควร ในเบื้องต้นกระผมขออนุญาติกล่าวขอบพระคุณทุกท่านแทนพี่แอนสำหรับน้ำใจของทุกท่านที่มีให้ไว้ในที่นี้ด้วยนะครับ เท่าที่ผมได้คุยกับพี่แอน ปัญหาในตอนนี้คงจะเป็นเรื่องของใบอนุญาติเรี่ยรายเงินบริจาคน่ะครับ ซึ่งพี่แอนก็ได้สอบถามมาทางผมอยู่เหมือนกันว่าต้องทำอย่างไร ขอที่ไหน มีขั้นตอนอะไรบ้าง แต่ผมเองก็ไม่รู้เรื่องนี้เลย (ลองสอบถามจากคนรู้จักดูแล้วก็ได้ข้อมูลที่ยังไม่ชัดเจนนัก) หากพี่ๆ หรือเพื่อนๆ ท่านใดที่ผ่านเข้ามาและพอจะทราบถึงรายละเอียดในเรื่องนี้ จะกรุณาช่วยบอกกล่าวเอาไว้ให้ก็จะเป็นพระคุณมากเลยครับ ส่วนความช่วยเหลือด้านอื่นๆ ที่หลายท่านได้แสดงความประสงค์ที่จะมอบให้กับพี่แอน 

เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าพี่แอนจะได้รับความช่วยเหลือนั้นอย่างแน่นอน รวมถึงเพื่อให้ความช่วยเหลือของทุกท่านเกิดประโยชน์มากที่สุด กระผมจึงอยากจะขอรบกวนทุกท่านติดต่อกับพี่แอนโดยตรงเลยน่าจะดีที่สุด เพื่อที่จะรู้ว่าอะไรที่พี่เค้ายังขาด หรือต้องการความช่วยเหลือด้านไหนมากที่สุด โดยสามารถติดต่อพี่แอน (กนกวรรณ เนตรจินดา)ได้โดยตรงที่เบอร์ 02-5850351 หลัง 3 ทุ่มของทุกวัน (ซึ่งเป็นเวลาที่พี่แอนจะให้อาหารสุนัขจรจัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว) จากความคิดเห็น :จากความเห็นที่ 50 ซึ่งโพสต์โดยคุณ patty ที่ได้กรุณานำหมายเลขบัญชีของพี่แอนมาบอกกล่าว ผมได้โทรศัพท์สอบถามพี่แอนแล้ว และได้รับการยืนยันว่าเลขที่บัญชีดังกล่าวเป็นเลขที่บัญชีของพี่แอนจริงๆ ตรงนี้ผมจึงขออนุญาติเรียนชี้แจงไว้ก่อนนะครับว่า ความช่วยเหลือที่จะมอบให้กับพี่แอน คงเป็นเรื่องที่แต่ละท่านต้องพิจารณากันเองแล้วว่าจะช่วยเหลืออย่างไร รูปแบบไหน ตัวกระผมเองคงต้องของดเว้นที่จะออกความคิดเห็นในเรื่องการบริจาคเงินนี้ เพราะตั้งใจว่าจะยังคงให้ความช่วยเหลือพี่แอน ในรูปแบบเช่นที่ตัวเองเคยทำมาก่อนหน้าที่จะเขียนบทความนี้ขึ้นมาครับ ขอบพระคุณในน้ำใจ ความห่วงใย และความปรารถนาดีที่ทุกท่านมอบให้กับพี่แอนในที่แห่งนี้อีกครั้งนะครับ ที่มา mblog.manager.co.th





เกี่ยวกับ Nok
ขอเป็นข้าฯรองพระบาททุกชาติไป
"นกรักในหลวงค่ะ"
อีเมล : saranchanok_pong@hotmail.com



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น